สมุนไพรพอกหน้า สมุนไพรชาววัง
- Pom
- Jan 20, 2017
- 1 min read

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีเรื่องสิวสิวจะมาเล่าสู่กันฟัง เพราะนอกจากเราจะสนใจเรื่องของการรักษาสิวแล้วเนี่ย รอยดำจากสิวก็เป็นอีกปัญหาที่น่าปวดหัวมากพอๆกับการรักษาสิวเลยใช่ไหมครับ อุตส่าห์สิวหายสิวยุบลงแล้ว แต่ยังเป็นรอยดำๆ ซึ่งเจ้ารอยดำนี้ก็จะเข้มบ้างจางบ้างตามสภาพผิวของแต่ละคน โดยกว่ารอยนี้จะจางลงก็ต้องใช้เวลานานเป็นเดือน
ผมก็เลยเอาสมุนไพรพอกหน้าที่ผ่านการทดลองใช้แล้ว 3 สัปดาห์ มาแบ่งปันนะครับ ว่าใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากโดยปกติผมเองเป็นหน้ามันนิดหน่อย แล้วก็จะมีรอยดำจากสิวอยู่บ้างประปราย ซึ่งความเข้มของรอยดำก็จะไม่มาก น่าจะเรียกว่าปานกลาง สรรพคุณของสมุนไพรพอกหน้าที่เขียนไว้ก่อนทดลองใช้คือ ช่วยขจัดและป้องกันสิว สิวหัวหนอง ฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยจะมีส่วนผสมของ เอนไซม์มะเฟือง เกสรดอกบัว ขมิ้นชัน ว่านนางดำ ว่านทองพันชั่ง และสมุนไพรอื่น ๆ

อันดับแรกเลย ตอนที่อ่านข้อมูลบนฉลากก็แปลกใจนะครับว่าเขียนน้อยจัง ทำไมหมดแล้ว ใช่ครับ!! หมดแล้วจริง ๆ มีคำอธิบายแค่นี้เลยครับ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่านี่เป็นปัญหาของผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรของคนไทยเลยนะครับ การไม่มีข้อมูลที่ละเอียดมากพอของส่วนผสมที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจ เรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิต เพราะการที่ใช้ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติ ไม่ได้หมายความว่าคนเราจะไม่แพ้สารบางอย่างจากธรรมชาตินะครับ ต่อมาก็คือสรรพคุณที่มีมากมายเหลือคณานับของผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ก็ผมไม่ทราบว่าส่วนผสมมันมีอะไรบ้าง จะให้ไปเชื่อได้ไงว่าจะดีจริงอย่างที่เขียนไว้ เห็นแบบนี้แล้วมันทนไม่ได้จริงๆ หน้าด้านหน้าทนอย่างผมก็เลยต้องเอามาลองให้รู้ไปเลยว่ามันจะดีจริงอย่างที่เขียนเอาไว้บนฉลากหรือเปล่า 5555

ทีนี้เราจะมาพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์กันบ้างนะครับ โดยลักษณะของสมุนไพรพอกหน้านี้มันจะไม่ใช่เนื้อครีมนะครับ มันจะมันสัมผัสหยาบๆสีน้ำตาลเข้ม เหมือนกับเราเอาสมุนไพรมนบดรวมกัน แล้วก็จะมีส่วนของเหลวที่เกิดจากการแยกชั้นตะกอนของตัวสมุนไพร ก่อนใช้ก็ต้องเขย่าหลอดก่อนครับ ซึ่งตอนบีบออกมาใช้เนี่ยผมก็ไม่รู้จากต้องใช้เยอะแค่ไหน ต้องพอกบางๆหรือหนาจนหน้าหนืดไปเลยก็ไม่ทราบได้ (เป็นอีกปัญหาที่ไม่ยอมเขียนวิธีใช้อย่างละเอียดนะครับ) เพราะสัมผัสมันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าซึบซาบลงไปบนผิวหน้าซักเท่าไหร่ ตอนผมใช้ก็เลยพอกเยอะหน่อย เพราะความที่มันไม่ใช่ครีมเหมือนผลิตภัณฑ์ทั่วไป

ตอนพอกก็จะเป็นเหมือนเราเอาโคลนมาพอกหน้าเลยครับ สีน้ำตาลเข้มมากๆ ผมชอบเนื้อสัมผัสหยาบๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีสครับมาขัดหน้า ถ้าไม่นับว่าต้องพอกทิ้งไว้ก็คงจะขัดหน้าวนไปเรื่อยๆอย่างเมามันส์ แต่เห็นสีแบบนี้ก็เถอะ กลิ่นมันหอมสมุนไพรเอามากๆเลยล่ะครับ กลิ่นคือไม่มีกลิ่นหอมสังเคราะห์จากสารเคมีอะไรเลย (แหม่ ก็ผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี่นะ) พอกไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก หลังจากล้างก็จะรู้สึกหน้าตึงๆ นุ่มๆนะครับ แต่จะไม่ได้ชุ่มชื้นอะไรเลย เพราะเหมือนเป็นสมุนไพรลดความมันบนใบหน้า

ผลจากการทดลองใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์นะครับ โดยที่พอดีว่าผมเพิ่งเป็นสิวหายพอดี เลยได้ทดลองเรื่องการลดรอยดำจากสิว พบว่า..ไม่ทราบอะไรเลยครับ 5555 คือต้องบอกก่อนว่าการเกิดรอยดำเนี่ย มันดำไม่เท่ากันในแต่ละจุด ผมเลยไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบว่ามันช่วยลดรอยดำได้เร็วขึ้นอย่างไร แล้วก็ส่วนตัวไม่มีกระ เลยไม่รู้ว่าช่วยลดกระได้หรือไม่อย่างไร แต่อย่าเพิ่งโกรธกันนะครับที่อุตส่าห์อ่านกันมาถึงตรงนี้ พอดีผมเห็นว่ามันมีข้อดีข้อนึงที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือหลังจากพอกหน้าเสร็จเนี่ย มันสามารถช่วยควบคุมความมันของหน้าได้ดีพอสมควรเลยครับ ออกจากบ้านเอาหน้าไปปะทะฝุ่นควันก็จะมันเหนอะหนะน้อยลงกว่าปกติ ถือว่าเป็นการนำผลิตภัณฑ์มาใช้ประโยชน์ในอีกรูปแบบนึงได้เลยทีเดียว หรือถ้าใครมีกระแล้วใบหน้าที่เข้มแข็ง มั่นใจว่าไม่แพ้อย่างแน่นอน สามารถเอาไปลองใช้กันได้นะครับ ผลเป็นอย่างไรก็อย่าลืมเอามาเล่าให้ฟังกันบ้างล่ะ ส่วนตัวผมก็จะทดลองใช้ต่อไปให้ครบเดือน เผื่อจะเห็นความแตกต่างหรือผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น สำหรับครั้งนี้ก็ขอบคุณมากๆและต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
Komentarze